ติดคุกฟรี 2 ปี อดีตคนงานก่อสร้างเป็นแพะคดีวิ่งราว

ติดคุกฟรี 2 ปี อดีตคนงานก่อสร้างเป็นแพะคดีวิ่งราว

วันนี้ (22 มิ.ย.) นายยนต์ อายุ 48 ปี ชาวอ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ได้นำเอกสารหลักฐานคดีวิ่งราว ที่ตนถูกกล่าวหาเป็นผู้ต้องหา เพื่อเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจ.ขอนแก่น เพื่อระบุว่าตนบริสุทธิ์ และถูกจำคุกเพราะคดีที่ไม่ได้ก่อถึง 2 ปี

โดยนายยนต์เล่าว่าเมื่อสองปีก่อนได้เดินทางไปร่วมงานศพญาติที่บ้านเกิดมีตำรวจสภ.น้ำพองนำหมายจับมาจับตนข้อหาวิ่งราวทรัพย์

ขณะนั้นมีนางดารัตน์ อายุ 50 ปีซึ่งเป็นผู้เสียหายเข้าชี้ตัว และยืนยันว่าตนเป็นคนก่อเหตุกระชากกระเป๋าขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่ โดยบอกว่าเหตุเกิดเมื่อ 6 พ.ย. 2558 อีกทั้งนางดารัตน์ยังอ้างว่า ทรัพย์สินที่โดนชิงไปมีมูลค่ารวม 28,340 บาท ทั้งๆ ที่นายยนต์ก็ยืนยันว่าตนทำงานอยู่ย่านพระราม 2 ในกทม.มาตลอดตั้งแต่ปี 2556-2558 ต่อเนื่องถึงปี 2559 และไม่เคยก่อคดีใดๆ มาก่อน แต่ก็ไม่เป็นผล

นางดารัตน์ไม่ยอมฟังและอ้างว่าคนร้ายไว้หนวดเคราและไว้ผมยาวรุงรัง อีกทั้งรูปร่างผอมสูงเหมือนกับตนมาก ทั้งๆ ที่ตนก็ยืนยันว่าไม่เคยไว้หนวดเคราและไว้ผมยาวเลยสักครั้ง และยานพาหนะของตนก็คนละรุ่นกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ อีกทั้งยังใช้ขี่อยู่ในแคมป์คนงานก่อสร้างในกทม.

นายยนต์โดนศาลชั้นต้นพิพากษาตัดสินโทษจำคุก 4 ปี แต่ได้ทนายความสู้คดีร้องศาลอุทธรณ์ต่อ ระหว่างรอผลการตัดสินจากศาลอุทธรณ์ ตนได้ถูกจำคุก 3 วัน และจากนั้นก็ถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 3 ปี และเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2560 ตนถูกจำคุกที่เรือนจำกลางขอนแก่น เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ก่อนจะได้รับการลดโทษจากจำคุก 3 ปี ลดเหลือ 2 ปี อีก 6 เดือน และย้ายไปจำคุกที่เรือนจำชั่วคราว จ.ร้อยเอ็ด จนครบกำหนด และพ้นโทษออกมาในวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายยนต์บอกว่าได้รับความเสียและไม่ได้รับความยุติธรรม จึงมาที่ศูนย์ดำรงธรรมเพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้น

อุบัติเหตุสลด ลูกชายขับรถหลับในชนต้นไม้ พ่อแม่ดับคู่ เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้ (22 มิ.ย.) เกิดเหตุรถยนต์ชนต้นสักทองขนาดใหญ่ข้างทางบริเวณถนนพหลโยธิน ขาล่อง ในจ.กำแพงเพชร โดยผู้ขับขี่คือ นายณัฐวัฒน์ คูสุวรรณ อายุ 30 ปี ได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้เป็นพ่อที่นั่งมาด้วยด้านข้างคือ นายมนู คูสุวรรณ อายุ 55 ปี และผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่ด้านหลังคือ นางพรสวรรค์ คูสุวรรณ อายุ 54 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในรถในสภาพคอหัก

นายณัฐวัฒน์ เล่าว่า ตนและพ่อแม่กำลังอยู่ระหว่างเดินทางไปทำธุระ โดยเดินทางมาจากลำปางกำลังมุ่งหน้าไปกรุงเทพมหานคร ออกจากลำปางช่วงเที่ยงคืน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ตนเกิดอาการหลับในจนรถเสียหลักลงข้างทางและชนต้นไม้ดังกล่าว

วัยรุ่น 16 ฆ่าแฟนสาววัยเดียวกันก่อนจับแขวนคออำพรางคดี

เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.) ตำรวจสภ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุนักเรียนหญิงแขวนคอเสียชีวิตในชุดเครื่องแบบของวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง โดยนักเรียนหญิงเรียนอยู่ชั้นปวช.2 เกิดเหตุภายในห้องน้ำ โดยสภาพศพมีรอยเขียวช้ำที่แขนและใบหน้า มีรอยคล้ายถูกบีบที่ลำคอ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายเพราะมีพยานระบุว่าสภาพศพเหมือนนั่งคอพับตอนเข้ามาช่วยเหลือ ตำรวจจึงสอบสวนนายบี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี แฟนหนุ่มของผู้ตาย ที่พักอาศัยอยู่ห้องเดียวกัน นายบีอ้างว่าทะเลาะกับผู้ตาย 3 วันแล้วจึงไปนอนกับเพื่อนนักเรียนช่างกลด้วยกัน และวันนี้ก็มาพบแฟนผูกคอเสียชีวิต คิดว่าคงน้อยใจที่ทะเลาะกันก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พบพิรุธในคำให้การหลายอย่าง ประกอบกับที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวชสงสัยว่าน่าจะเป็นการอำพรางคดีเพราะศพมีรอยช้ำหลายแห่งและมีรอยบีบคอ อีกทั้งจุดที่พบศพไม่น่าจะใช้ผูกคอจนถึงตายได้ นอกจากนี้ สภาพห้องก็มีลักษณะ เหมือนคนทะเลาะกันรุนแรง มีการทำลายข้าวของ ผู้ตายไม่น่าจะอยู่คนเดียวตอนเกิดเหตุ

หลังสอบสวนไปหลายชั่วโมงนายบีจึงยอมรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าแฟนสาวเอง และได้อำพรางศพด้วยการลากไปแขวนคอในห้องน้ำ สาเหตุเพราะทะเลาะกันเรื่องที่แฟนสาวแอบมีกิ๊ก ตนโมโหจึงพลั้งมือบีบคอจนเสียชีวิต

ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ต้องหาอายุ 16 ปี การสอบสวนและบันทึกคำให้การต้องรอให้ทีมสหวิชาชีพหลายฝ่ายมาร่วมสอบ ทั้งนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา เพื่อร่วมกันสอบปากคำเด็กที่ตกเป็นผู้ต้องหา

ทีมสืบสวนระบุว่า เด็กทั้งสองแอบได้เสียกันตั้งแต่จบชั้นม.3 จนญาติทั้งสองฝ่ายต้องจัดงานแต่งงานให้และย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ฝ่ายชายเรียนช่างกล ฝ่ายหญิงเรียนพาณิชย์ โดย 3 วันก่อนเกิดเหตุเพื่อนของนายบีเอาภาพของผู้ตายในเฟซบุ๊กสตอรี่ นั่งกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนชายที่นายบีไม่รู้จัก ทำให้นายบีโมโหและพยายามเค้นถามว่าผู้ชายที่นั่งใกล้ๆ คือใครจนทะเลาะกันรุนแรงและนายบีก็หนีไปนอนกับเพื่อน จากนั้นประมาณห้าทุ่มของคืนที่ผ่านมานายบีแอบกลับมาหาผู้ตายและเค้นความจริงอีกรอบ ซึ่งรอบนี้นายบีพลั้งมือบีบคอแฟนจนเสียชีวิต หลังอำพรางศพนายบีก็กลับไปนอนที่ห้องเพื่อน รุ่งเช้าก็ไปเรียนตามปกติ โดยได้ชวนเพื่อนไปที่ห้องเพื่อให้มาพบศพ

จึงต้องพิจารณาหาน้ำจากขุมน้ำต่างๆ มาใช้ โดยการขอซื้อน้ำจากเอกชนนั้นควรจะมีการทำแผนตลอดปี เนื่องจากหากน้ำในอ่างเก็บน้ำมีเพียงพอในช่วงหน้าแล้งก็จะไม่มีปัญหาเหมือนปัจจุบัน ซึ่งต้องคุยกับหน่วยเกี่ยวข้องว่า ในปีนี้หรือปีต่อไปจะมีการนำน้ำจากเอกชนมาใช้ในยามปกติอย่างไร ส่วนแผนการบริหารจัดการน้ำทั้ง 3 อ่างเก็บน้ำก็ต้องบริหารเพื่อให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุดในปีนี้และปีถัดไป